คำอุปมาเรื่องพระกิตติคุณของพระเยซูและคนฟาริสีหมายถึงอะไร?
คำอุปมาเรื่องพระกิตติคุณของพระเยซูและคนฟาริสีหมายถึงอะไร?
พระวรสารสอนว่าพระเยซูคริสต์เป็นผู้บรรยายกล่าวกับผู้คนด้วยอุปมา พวกเขาต้องตื่นตัวในความรู้สึกทางจริยธรรมของคนบางคน พระเยซูคริสต์ใช้คำอุปมาเป็นภาพเพื่อให้เข้าใจถึงความจริงทางศีลธรรมพื้นฐานของศาสนาคริสต์
คำอุปมาของคนเก็บภาษีและคนฟาริสีตามที่ปรากฏในข่าวประเสริฐของลุค ดังนั้นพระคัมภีร์บอกถึงสองคนที่ไปวัดเพื่อจะอธิษฐาน หนึ่งในนั้นคือคนที่เป็นพวกฟาริสีและอีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสีในหมู่ชาวยิวเป็นคนที่มีฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญในพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ในพระคัมภีร์เก่า ชาวฟาริสีได้รับการยกย่องจากประชาชนพวกเขาอาจเป็นครูทางศาสนาของชาวยิว นักสะสมภาษีเรียกเก็บภาษี คนเหล่านี้ได้รับการปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความชิงชัง
พระเยซูคริสต์บอกเราว่าพวกฟาริสีได้เข้ามาในวัดยืนอยู่ตรงกลางและภูมิใจที่เริ่มอธิษฐาน ผู้บัญญัติกฎหมายของชาวยิวขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ได้เป็นคนบาปเช่นคนอื่น ๆ ชาวฟาริสีกล่าวถึงการละหมาดที่จำเป็นการอธิษฐานซึ่งเขาได้กระทำเพื่อพระสิริของพระเจ้า ในเวลาเดียวกันได้มีการกล่าวด้วยความรู้สึกของตัวเองโต๊ะเครื่องแป้ง เหมือนคนฟาริสีคนเก็บภาษียืนอย่างสุภาพที่ท้ายวัดและเอาชนะตัวเองที่หน้าอกด้วยถ้อยคำต่ำต้อยเกี่ยวกับพระเจ้าที่ทรงพระกรุณาต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นคนบาป
พระเยซูคริสต์ได้ทรงประกาศข่าวประเสริฐให้คนทั้งหลายฟังว่าคนเก็บภาษีออกจากพระวิหารซึ่งเป็นที่ชอบธรรมจากพระเจ้า
การเล่าเรื่องนี้หมายความว่าในคนไม่ต้องเป็นความเย่อหยิ่งความไร้สาระและความชอบธรรม คนเก็บภาษีเป็นคนบ้าก่อนที่พระเจ้าเพราะเขาได้รับการยกย่องตัวเองมากขึ้นลืมว่าทุกคนมีบาปบางอย่าง ประชาชนเห็นว่ามีความอ่อนน้อมถ่อมตน เขารู้สึกสำนึกผิดอย่างยิ่งต่อการกลับใจต่อหน้าพระเจ้าในชีวิตของเขา นั่นคือเหตุผลที่ผู้คุมสุภาพยืนอยู่ข้าง ๆ และอธิษฐานขอให้อภัย
คริสตจักรออร์โธดอกซ์บอกว่าความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเข้าใจเกี่ยวกับความผิดบาปของมนุษย์และความรู้สึกสำนึกผิดยกคนขึ้นต่อหน้าพระเจ้า เป็นมุมมองวัตถุประสงค์ของความบาปของคนที่เปิดทางให้ผู้สร้างกับผู้สร้างและความเป็นไปได้ของความสมบูรณ์แบบทางจริยธรรม ไม่มีความรู้เรื่องพระเจ้าจะมีประโยชน์ถ้าคนใดมีความภาคภูมิใจในตัวเขาและทำให้ตัวเองเหนือคนอื่น